วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556


สังขยาฟักทอง




- ใบอ่อน เมื่อเทียบกับเนื้อฟักทองซึ่งมีวิตามินเอสูงแล้ว ใบอ่อนจะมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าเนื้อฟักทองด้วย




- ดอก มีวิตามินเอ ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีวิตามินซีเล็กน้อย


- เนื้อฟักทอง อุดมไปด้วย แคลเซียม วิตามินซี ฟอสฟอรัส วิตามินเอสูง ที่สำคัญมี เบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในเนื้อสีเหลืองๆ ของฟักทอง ช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ แถมยังช่วยชะลอความแก่เพราะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหน้ง ทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล ป้องกันโรคผิวหนัง และยังบรรเทาอาการปวดข้อเข่า บั้นเอวได้อย่างดียิ่ง


- เยื่อกลางผลฟักทอง นำไปพอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อักเสบหรือปวดได้


- เปลือกฟักทอง ป้องกันการเกิดเบาหวาน เพราะจะช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ซึ่งสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงตับ ไต ดวงตาอีกด้วย


- เมล็ด มีสารที่ชื่อว่า คิวเคอร์บิติน (cucurbitine) ช่วยฆ่าพยาธิตัวตืดได้ดี แถมยังช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและนิ่ว นอกจากนี้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดของฟักทอง ช่วยบำรุงประสาทได้ และยังมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ ขึ้น และช่วยปรับฮอร์โมนเพศชายให้อยู่ในระดับปกติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น